"ต้องสอนให้ลูกสาวรักนวลสงวนตัว"

ผู้หญิงเป็นเพศที่ธรรมชาติให้ตั้งท้อง ฉะนั้น ต่อให้มีเสรีภาพทางเพศแค่ไหน เกิดแจ็คพ็อตขึ้นมาก็ตั้งท้องได้อยู่ดี ถ้าไม่ถึงวัยอันควรที่พร้อมจะดูแลตัวเองและเลี้ยงลูก การตั้งท้องก่อนวัยอันควรก็มักจะนำมาซึ่งการหมดโอกาสที่จะเล่าเรียนศึกษา ลดโอกาสในการพัฒนาตน เมื่อต้องรับหน้าที่แม่ก็เป็นแม่ที่ไม่มีวุฒิภาวะ แล้วก็ต่อเนื่องไปถึงการเลี้ยงลูกที่มักขาดคุณภาพ สร้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้คุณภาพเป็นวงจรความทุกข์ต่อไป

ถ้าโชคยังดีไม่ตั้งท้อง ก็อาจติดโรค อย่างโรคเอดส์ คุ้มเหรอ

ทำอย่างไรเราจะช่วยให้ลูกสาวของเราเรียนรู้ได้ว่า แม้บางคนอาจโชคดี รอดจากปัญหาการตั้งครรภ์ หรือการติดโรค แต่เธอย่อมไม่อาจหนีแผลเป็นทางจิตใจ ผู้หญิงบางคนอาจจะประกาศตนเป็นสาวรุ่นใหม่ เป็นผู้หญิงที่ไม่แคร์ค่านิยมของสังคมหรือวัฒนธรรม แต่อย่างน้อยเราทุกคนก็คงจะแคร์ความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเราเอง (หรืออาจจะครอบครัวของเรา) ที่จะติดไปสะกิดทำร้ายความรู้สึกของเราเองตลอดชีวิต เพราะสำหรับธรรมชาติผู้หญิงแล้ว เซ็กส์มากับความรัก ความผูกพัน ความพึงพอใจเป็นสำคัญ มิได้มากับอาการ"ตกมัน"ของฮอร์โมนเป็นสำคัญอย่างผู้ชาย

ผู้หญิงต้องการสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค เช่นเดียวกับมนุษย์ทุกผู้ทุกนามไม่ว่าเพศ เชื้อชาติ ศาสนา ผิว สี ฯลฯ ใดๆ ในสังคมไทยที่ผู้หญิงเคยถูกเอาเปรียบ กดขี่ บังคับ จนขาดโอกาส เราต้องช่วยกันสำรวจปัญหา และพัฒนาไปสู่การเคารพให้คุณค่าแก่เพศหญิง มองเพศหญิงเป็นมนุษย์ที่รู้จักร้อน หนาว เจ็บ หิว เช่นเดียวกับผู้ชาย เราต้องช่วยกันขจัดการเอารัดเอาเปรียบ และเปิดโอกาสให้ผู้หญิงอย่างเสมอภาคทุกระดับ ทั้งในสังคม ชุมชน และแม้ในบ้านของตนเอง

แต่สิทธิเสรีภาพที่เสมอภาคของเพศหญิง ไม่ได้หมายความว่า ผู้ชายสำส่อน เสรีทางเพศได้เช่นไร ผู้หญิงก็จะต้องทำได้ขนาดนั้น

เพราะเหตุว่านอกจากเป็นผู้หญิงแล้ว เธอยังเป็นแม่ สิทธิของความเป็นแม่คือการได้ปกป้อง เลี้ยงดู พัฒนามนุษย์อีกคนหนึ่ง ดังนั้นถ้าเธอจะเป็นแม่ เธอจะต้องเป็นแม่ที่ใช้สิทธิ เสรีภาพเพื่อปกป้องการเติบโตพัฒนาของลูก ได้ทั้งทางร่างกาย จิตใจ ศักดิ์ศรี และคุณค่าในชีวิต

เธอจะทำหน้าที่นี้ได้อย่างไร ถ้าเธอไม่เข้าใจหรือตระหนักในวิถีของการเป็นแม่ เพียงย้ายไปนอนกับใครๆ ก็ได้ง่ายๆ นั้น ย่อมไม่ใช่วิถีของการเป็นแม่ที่มีคุณค่าและศักดิ์ศรีอย่างแน่นอน

แล้วจะเลี้ยงลูกสาวในยุคนี้อย่างไรดี

เราพูดถึงการปลูกฝังให้ลูกสาวเห็นคุณค่าของความเป็นเพศหญิง ที่เก่งได้ พัฒนาตนเองได้ ออกมายืนแถวหน้าของการสร้างสรรค์ชีวิต การงาน สังคมและโลกได้อย่างเสมอภาค แต่ตระหนักในความเหมาะควรกับความเป็นเพศหญิงที่ยังต้องออกลูก

มันคงอยู่ที่การปลูกฝังทัศนคติแต่เล็กแต่น้อยด้วยกระมัง ให้ลูกสาวได้กล้าตัดสินใจอย่างรับผิดชอบ ให้ลูกสาวภาคภูมิใจในคุณค่าของตนที่ไม่ใช่อยู่ที่หน้าตาหรือรูปร่างที่สวยงามเท่านั้น แต่อยู่ที่คิดเป็น คิดดี พ่อแม่ที่ชอบจับลูกสาวแต่งตัววาบหวาม หรือคุณครูที่ชอบเอาเด็กตั้งแต่อนุบาล โชว์โน่นโชว์นี่ยักย้ายส่ายสะโพก ให้เป็นเด็กแก่แดดตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก คงยากอยู่หรอกที่จะพูดเรื่องการรักนวลสงวนตัว

พอลูกสาวเริ่มเป็นสาว เราคงต้องบอกให้ลูกรู้ว่าความแตกต่างทางธรรมชาติระหว่างเพศหญิงกับเพศชาย ที่ "ผู้หญิงโรแมนติก ผู้ชายอีโรติค " ผู้หญิงอยากอยู่ใกล้ ชื่นใจหวานแหวว แต่ผู้ชายเข้าใกล้นิดเดียว ธรรมชาติมันก็ร่ำร้องจะฟันสาวเจ้าท่าเดียว ฉะนั้น ที่สาวน้อยคิดว่า นุ่งห่มอย่างไรมันก็ร่างกายของฉัน มันคงไม่พอที่จะคุ้มครองตัวเอง ลูกควรคิดว่า เราต่างต้องเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีของกันและกัน แต่งโป๊มากๆ เขาไม่เข้าใจเป็นอื่นได้หรอก นอกจากคิดว่าเรายั่วยวนเขาให้ฟันนั่นเอง

แต่ก็ไม่เพียงลูกสาวที่ต้องสอน ลูกชายก็ต้องได้เรียนรู้แบบเดียวกันนี้

บอกลูกเถอะค่ะว่า เซ็กซ์สำคัญต่อชีวิต แต่ไม่ใช่สำคัญที่สุด เซ็กซ์สำหรับมนุษย์ต่างจากสัตว์ เพราะสำหรับมนุษย์ที่มีสมองคิดได้ พัฒนาระบบคุณค่า วัฒนธรรมขึ้นมาได้นั้น การมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามก็ต้องอยู่ในระบบคุณค่าของเราด้วย อย่าให้เป็นไปตามสัญชาตญาณดิบ เซ็กซ์ไม่ใช่แรงขับที่จัดการไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่จัดการให้เหมาะให้ควรได้แน่นอน แล้วเราจะได้ไม่เสียใจกับสิ่งที่ลูก ไม่ว่าลูกสาวหรือลูกชายกระทำลงไป

ขอบคุณข้อมูล : นิตยสาร Life & Family